เผยเหตุผล ทำไมหนังเรื่องนี้ จึงต้องรับชมที่โรงหนังเท่านั้น
เผยเหตุผล เพราะหนังต้องการความเงียบ ถ้าคุณยังจดจำประสบการณ์ความเงียบของหนัง อะ ไควเอท เพลก ภาคแรกได้ว่า
เผยเหตุผล ทุกครั้งที่ตัวละครทำเสียงดังขึ้นมา นั่นหมายถึงความตายที่คืบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม แน่นอนว่าการนั่ง กินป๊อปคอร์นตอนชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แทบจะกลายเป็นการสร้างความหงุดหงิดให้กับผู้ชมคนอื่นๆ ในโรงหนัง
ในช่วงเวลาที่หนังภาคแรกเข้าฉาย จนมีกระทู้ดราม่าอยู่ในเว็บบอร์ด และโซเชียลมีเดียอยู่พักหนึ่ง จากความสำเร็จของหนังภาคแรก ที่ได้รับการตอบรับ จากผู้ชมทั่วโลกอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าการชมหนังที่ต้องการความเงียบสูง (และต้องการสมาธิในการรับชม)
คงไม่ดีแน่ ถ้าหากคุณถูกรบกวนสมาธิจากแสงที่เข้ามาในบ้าน เสียงเรียกของคนในบ้านในลงไปกินข้าว เสียงข้อความเตือนจากโซ เชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งอาการปวดฉี่ จนอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วกดหยุดภาพยนตร์เอาไว้ ข่าว หนังใหม่ MarVel
การชม อะ ไควเอท เพลก พาร์ท 2 จึงไม่สามารถดูที่บ้านได้อย่างสิ้นเชิง ต้องจอใหญ่ๆเท่านั้น หนังฟอร์มยักษ์ ถูกออกแบบมาเพื่อรับ ชมในโรงภาพยนตร์ ดังนั้นรายละเอียดเรื่องงานภาพ ระบบเสียง ฉาก จึงต้องการเทคโนโลยี ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้กำกับ และหนังจะ เล่า
แน่นอนว่า อะ ไควเอท เพลก ต้องการเรื่องความเงียบ โรงหนังจึงเป็นโรงมหรสพขนาดใหญ่ที่สามารถมอบสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น จอภาพยนตร์ที่มีขนาดมหึมา จึงเป็นคำตอบ ในการที่ผู้ชมจะเฝ้าดูตัวประหลาด ออกไล่ล่ากลุ่มผู้รอดชีวิตด้วยความใจจดใจจ่อ
และแอบมอบภัยคุกคาม ที่ตัวละครในเรื่องอาจจะมองไม่เห็น ในยามที่พวกเขากำลังหนีตาย (เพราะคนดูเห็นทุกอย่าง) ดังนั้น การมองจอเล็ก จึงอาจจะทำให้คนดูพลาดจุดสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ในบางฉากไป
เรื่องราวบทใหม่ ที่สานต่อจากหนังภาคแรก เพียงไม่กี่วินาที หากจะพูดว่า มันเป็นหนังภาคต่อก็อาจจะถูกครึ่งเดียว เพราะความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังนั้น เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องเพียงไม่กี่วินาที จากหนังพาร์ทแรก
โดยหนังภาคนี้ เล่าเรื่องราวนอกบ้านครอบครัวแอ็บบ็อตต์ (เอมิลี่ บลันท์, มิลลิเซนต์ ซิมมอนด์ส, โนอาห์ ชูป) ต้องออกมาเผชิญกับความสยดสยอง ที่เกิดขึ้นกับโลกภายนอก เมื่อพวกเขายังคงดิ้นรนต่อสู้ เพื่อจะเอาชีวิตรอดท่ามกลางความเงียบ
เมื่อสถานการณ์บีบให้พวกเขา ต้องเสี่ยงก้าวสู่พื้นที่ที่ไม่รู้จัก นั่นทำให้พวกเขารับรู้อย่างรวดเร็วว่า สัตว์ประหลาดที่ออกล่า ตามเสียง ไม่ใช่ภัยคุกคามเพียงภัยเดียว ที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่นอกเส้นทางเดินที่โรยด้วยทราย
พื้นที่ใหม่ในจักรวาลนี้ ที่ผู้ชมไม่เคยได้เห็น เมื่อหนังภาคแรกดำเนินเรื่องอยู่ ในพื้นที่บ้านของครอบครัวแอ็บบ็อตต์เท่านั้น เมื่อผู้กำกับหนังภาคแรกอย่างจอห์น คราซินสกี้ได้รับโอกาสในการสานต่อเรื่องราวทั้งหมด
เขาจึงเห็นโอกาสในจุดที่หนังภาคแรกทิ้งปมเอาไว้ให้ ทีมงานได้มีโอกาสไปสำรวจโลกที่เขาสร้างขึ้น
และยังเปิดโอกาสให้คนดู ตามติดว่าครอบครัวตัวเอกในเรื่องจะเอาชีวิตกันต่ออย่างไร โดยสิ่งสำคัญของภาค 2 ต้องไม่ต่างจาก ภาคแรก นั่นก็คือจะต้องเป็นมากกว่าประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกสยดสยอง มันยังต้องผลักดันการเดินทางทางอารมณ์ของครอบครัวนี้ ให้เดินหน้าต่อไป
โดยในครั้งนี้ จะต้องเดินหน้าไปทั้งโดยอิสระ และในฐานะที่เป็นชุมชนด้วย หนังแห่งความหวังในการออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้าง ท่ามกลางโลกที่สิ้นหวัง และอันตรายมากมายที่รออยู่นอกบ้าน อุปมาอุปมัยได้ใกล้เคียงกับโรคระบาดที่รออยู่ในโลกด้านนอก
การเดินทางออกนอกบ้าน ของครอบครัวแอ๊บบ็อตต์ไปสู่พื้นที่ใหม่ๆ และอันตรายใหม่ๆ ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจะเป็นตัวแสดงความงดงามของครอบครัวอันเป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์ แม้ว่าในทุกก้าวที่คุณตัวละครเดินไปคือความไม่แน่นอน
ความน่ากลัวเกิดได้จากทุกที่ เมื่อพวกเขาไม่รู้ว่า จะเอาชีวิตรอดจากวินาทีต่อไปได้อย่างไร มีโอกาสที่จะทำผิดพลาดได้
และเมื่อทำผิดพลาด สัตว์ประหลาดจะอยู่รอบๆ ตัวนั้นอยู่ใกล้มากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก ความกลัวของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ
เบื้องหลังความตึงเครียดของ อะ ไควเอท เพลก พาร์ท 2 ยังคงเป็นประสบการณ์ ของมนุษย์ธรรมดา เหมือนที่เคยสร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับคราซินสกี้มาก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ ชีวิตครอบครัว และการคิดใคร่ครวญ ด้วยความวิตกกังวล ความอ่อนไหว การสื่อสาร และแรงกระตุ้นที่จะปกป้องคนที่คุณรัก
แต่ในขณะที่ภาพยนตร์ภาคแรก ถือกำเนิดขึ้น จากความรู้สึกของคราซินสกี้ ที่เพิ่งได้เป็นคุณพ่อมือใหม่ ครั้งนี้ คราซินสกี้ครุ่นคิดว่า สิ่งที่อาจจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ทำให้คนเป็นพ่อแม่รู้สึกสับสนที่สุด นั่นก็คือความกลัวที่เลี่ยงไม่ได้
ที่ต้องเห็นลูกๆ ต้องก้าวสู่โลกที่อันตรายและมีการแตกแยก ที่ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ และแรงกระตุ้นของคนอื่นๆ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก “ผมเคยมีความคิดที่ดังอยู่ในหัวเกี่ยวกับคำสัญญาของคนที่เป็นพ่อแม่ คุณได้สัญญากับลูกๆ ของคุณว่า
ตราบใดที่ลูกอยู่กับพ่อ พ่อจะดูแลให้ลูกปลอดภัย” ผู้กำกับอย่างจอห์น คราซินสกี้กล่าว “มันคือคำสัญญาที่พ่อแม่ทุกคนรับปากลูก แต่ก็น่าเศร้า บางครั้งคุณก็ไม่อาจรักษาสัญญาได้ เมื่อคนเป็นพ่อแม่ต้องปล่อยให้ลูกๆ ออกไปสู่โลกภายนอกตามลำพัง
นั่นคือการเติบโตของลูกๆ และนั่นคืออุปมาอุปไมยหลักๆ ที่ผมอยากสำรวจ คนเป็นพ่อของครอบครัวนี้ได้จากไปแล้ว พวกเขาได้มาถึงขอบสิ้นสุดของตาข่ายที่รักษาความปลอดภัย ดังนั้น อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณต้องก้าวไปสู่ดินแดนที่คุณไม่รู้จักเป็นครั้งแรก”
คราซินสกี้กล่าวต่อไปอีกว่า “เราทุกคนหวังว่าเราได้เตรียมลูกๆ ของเราให้พร้อมรับกับชีวิต ที่พวกเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่คุณก็ยังหวังมากไปกว่านั้น คุณหวังว่าลูกๆ ของคุณจะกลายเป็นสิ่งที่พิเศษ
และหวังว่าพวกเขาจะพบชุมชนที่พวกเขาอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ได้ ความคิดพวกนั้นคือสิ่งที่อยู่ในหัวของผมเช่นกันครับ” อะ ไควเอท เพลก พาร์ท 2 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้ ที่โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการ