สรุปคิงด้อม ตัวละครฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นฝ่ายที่ชั่วร้ายกว่ากัน

สรุปคิงด้อม โดยสังเขปนั้น บอกเล่าช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านรัชสมัยในราชวงศ์โชซอน

สรุปคิงด้อม หลังจากอาการป่วยของพระราชา ซึ่งไม่อาจจะหาวิธีรักษาได้ ด้วยความสงสัยขององค์ชายรัชทายาทอีซาง (จู จีฮุน) ที่ถูกพระมเหสีโจ (คิมฮเยจุน) กีดกันไม่ให้เข้าพบพระราชบิดา องค์ชายรัชทายาท ก็เลยต้องออกเดินทางไปยังเมืองทงเร

เพื่อเจอแพทย์หลวงอีซึงฮึ ผู้ล่วงรู้อาการของโรคเจ็บป่วยของพระราชา ได้เดินทางกลับไปพำนักยังโรงหมอ การเดินทางไกลขององค์ชายรัชทายาทได้ “เปิดตา” ให้เขา ได้เห็นความทุกข์ยากของประชาชน ก่อนเขาจะพบเจอ กับสถานการณ์สุดคับขัน

เมื่อเชื้อโรคร้าย ได้เกิดการระบาด เปลี่ยนผู้คน ให้กลายเป็นอสูรกาย อยากกินเลือด องค์ชายและองครักษ์คนสนิทมูยอง (คิมซางโฮ) จึงต้องพยายามเอาชีวิตรอด พระมเหสีโจ เป็นตัวร้ายที่สุดจริงรึเปล่า ตลอดทั้งซีซั่น 1 และ 2 เราจะได้เห็นว่า การบงการชักใยของพระมเหสีโจในการขึ้นสู่อำนาจนั้น

สรุปคิงด้อม

เธอได้รับการสนับสนุน และช่วยเหลือโดยอัครมหาเสนาบดี โจฮักจู (รยูซึงรยอน) ซึ่งเป็นบิดาของพระมเหสีโจ ผู้คิดแผนในการชุบชีวิตกษัตริย์ขึ้นมาจากความตาย

เพื่อถ่วงเวลาให้พระมเหสีโจ ให้กำเนิดองค์ชายรัชทายาทเสียก่อน เพื่อป้องกันบัลลังก์นี้  จะตกไปอยู่ในมือขององค์ชายรัชทายาท

ดังนั้นอัครมหาเสนาบดี โจฮักจู จึงใช้ลูกสาวของตัวเอง ในการหล่อเลี้ยง “สายเลือด”  ของตระกูลแฮวอนโจเอาไว้ เพื่อสืบอำนาจ และปกครองประเทศต่อไป

นอกจากนี้ ผู้ชมจะได้รับรู้ว่า นอกจากหัวเมืองใหญ่ฮันยางแล้ว ยิ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลจาก “ศูนย์กลาง”มากเท่าไร ความเป็นอยู่ของราษฎร ก็ยิ่งแร้นแค้นอดอยากมากขึ้นเท่านั้น ตามที่พวกเราได้เห็น ความวุ่นวายในตอนต้นเรื่องที่ผู้คนอดอยาก

จนต้องเอาซากศพของมนุษย์ด้วยกัน มาทำเป็นอาหาร (และนำไปสู่การระบาดของเชื้อโรคในเวลาต่อมา) แต่การดำรงชีวิตในพระราชวังนั้น กลับเป็นคนละเรื่อง พระมเหสีโจยังคงมีชีวิตที่สุขสบาย อาบน้ำ มีข้าราชบริพาร นางในคอยปรนนิบัติรับใช้ ยังมีเวลาในการคิดแผน เพื่อตัวเองสามารถดำรงอยู่ในอำนาจ

หรือแม้กระทั่ง เตรียมแผนการสำรอง ถ้าหากแผนการหลักล้มเหลว ในเวลาต่อมา จะเห็นได้ว่าในวินาทีสุดท้าย ของชีวิตพระมเหสีโจเธอก็ยังเลือกจะนั่งอยู่บนบัลลังก์ ยอมเสียชีวิต ดีกว่าตัวเองจะต้องเสียบัลลังก์นี้ไป ข่าว หนังใหม่ MarVel

เพราะบางทีในใจลึกๆ เธออาจจะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเกิดจะต้องเปลี่ยนแปลงผ่านอำนาจ ไปให้ตระกูลอื่น ในอนาคตเธอเอง ก็อาจจะไม่มีชีวิตรอด อยู่ในโลกนี้เช่นกัน ดังนั้นความไปให้สุดทาง ของพระมเหสีโจจึงกลายเป็นทางเลือก ที่ตัวละครนี้ตัดสินใจจะเดินไปแบบที่เราได้เห็น

เจ้าเมืองทงเร กับคติของคน “อยู่เป็น” เจ้าเมืองทงเร (จอนซอกโฮ) ญาติห่างๆของตระกูลแฮวอนโจ ที่ได้มาปกครองเมืองห่างไกล  แน่นอนว่า เขาไม่ได้สนใจใยดี ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้ผู้คนในท้องที่มีกินมีใช้

เปล่าเลย เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ในตำหนักของตัวเอง โดยไม่รับรู้ความเป็นไปของสังคม 

อีกทั้งยังแวดล้อม ไปด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เอาแต่ตักตวงผลประโยชน์เข้าตัว เสวยสุขไปวันๆ แน่นอนว่าเจ้าเมือทงเร เป็นตัว  ละครที่ห่างไกลจากคำว่า “ฉลาด” และมีหัวใจของนักปกครอง ไม่ว่าจะไร้ซึ่งสติปัญญา หรือความรู้

ดังเช่นที่เราได้เห็นในตอนแรก ที่มีการพบศพคนตายจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่อาจจะตัดสินใจอะไรได้  ต้องฟังข้าราชการคนสนิท รวม ไปถึงบรรดาชนชั้นขุนนางในสังคม โดยไม่มีการวิเคราะห์อะไรด้วยตัวเองทั้งสิ้น หรือในทุกครั้งที่เกิดวิกฤตอะไร

เจ้าเมืองทงเรเป็นแค่ “คนโชคดี” ที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา เขาจึงรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์อยู่เสมอ ความโง่บริสุทธิ์บวกกับโชคเข้าข้าง  ตัวละค รแบบเจ้าเมืองทงเร จึงไม่ต่างอะไรจากคนที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย ไม่เคยสัมผัสความทุกข์ยากอย่างแท้จริง ยามล้ม หรือประสบภัยคุกคาม พวกเขาก็ยังมีหนทางเอาตัวรอด

สรุปคิงด้อมไม่สิ้นไร้หนทาง แบบประชาชนตาดำๆ ที่ยามเกิดวิกฤตโรคระบาด พวกเขา ต้องหนีตายกันแบบทุลักทุเล ยืนวิงวอน ร้องขอชีวิตกันหน้ากำแพงเมือง อย่างน่าอเนจอนาถ

มิหนำซ้ำ หลังปัญหาทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว เจ้าเมืองทงเร ก็กลายเป็น คนโชคดี ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ที่เขามีอำนาจมากขึ้น

ไม่ใช่เพราะเขามีผลงาน หรือเป็นคนใกล้ตัวองค์ชายรัชทายาท แต่เพียง เพราะเขาเป็น ตัวเลือกที่มาในเวลาที่ประจวบเหมาะพอดิบพอดี

ดังนั้น ตัวละครนี้จึงเป็นภาพแทนของคนโง่ ที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจเพราะโชคล้วนๆ ตัวละครสามตัว ที่เราหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น เช่น  พระมเหสีโจ, อัครมหาเสนาบดีโจฮักจู และเจ้าเมืองทงเร นั้นล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวพันกันในฐานะ “เครือญาติ”

ซึ่งล้วนแล้วแต่ ได้รับประโยชน์ จากการกุมอำนาจเอาไว้  แต่ใช่ว่าตัวละครอื่นๆในเรื่อง จะเป็น “คนดี” เสมอไป เพราะตลอดทั้งเรื่อง  ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาท ที่มืดบอดและไม่เคยรับรู้โลกภายนอกสักเท่าไหร่

เมื่อถึงคราวคับขันการงัดเอา “ตำแหน่งทางสังคม” ของตัวเองออกมาเพื่อเป็นแต้มต่อในการกำจัดศัตรู ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เขาเลือกใช้  กระทั่งหมอซอบี (แบ ดูนา) เมื่อถึงคราวเอาตัวรอดเธอก็ไม่รอช้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อค้นหาความจริง

โดยไม่สนใจเลยว่าการกระทำของเธอ จะนำมาซึ่งความตายของคนอื่น ตัวละครในนี้ เอาเข้าจริงแล้ว แทบทุกตัวละครอยู่ในเฉดสี เทาๆค่อนไปทางดำกันแทบทุกตัว จริงอยู่ที่คนดูอาจจะพอจำแนกได้ว่าใครเป็นฝ่ายที่ควรเอาใจช่วย  หนังไทม์ไลน์

แต่แท้ที่จริงแล้วทุกคน ต่างก็ล้วนทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองกันทั้งสิ้น “ความชั่วร้าย”ของตัวละครแต่ละตัว จึงมีดีกรีความมากน้อย แตกต่างกันไป สมมติว่าคุณกลายร่างเป็นตัวละครสักตัวในเรื่อง คุณจะตัดสินใจแบบไหน มีคำตอบให้ตัวคุณเองแล้วหรือยัง