ตีแผ่ด้านมืด ในสังคมที่ยังมี เกิดขึ้นจริงให้เห็น ได้พบเจอในยุค

ตีแผ่ด้านมืด ของระบบชนชั้นวรรณะ ในประเทศ ที่ปัจจุบันยังคงมีให้เห็น

ตีแผ่ด้านมืด เน็ตฟลิกซ์ ได้คอนเทนต์เพชรเม็ดงาม มาฉายอีกที กับหนังประเทศอินเดีย ที่ปรับเปลี่ยนจาก หนังสือขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่าของ อาร์วินด์ อดิกา เรื่อง พยัคฆ์ขาวรำพัน ( เดอะ ไวท์ ไทเกอร์ )  ข่าว หนังใหม่ MarVel

โดยได้เรื่องดูแลและก็เขียนบทของ รามิน บาห์รานิ ผู้ครอบครองผลงานอย่าง ฟาเรนไฮต์ 451 ที่เคยเข้าชิงรางวัล เอมมี่ ไพรม์ไทม์ สาขาหนังโทรทัศน์เยี่ยมยอด ที่สุดมาแล้ว

รวมทั้งนี่ก็เป็น การมาร่วมงานกับ เน็ตฟลิกซ์ โดยมีโพรดิวเซอร์ มือรางวัลอย่าง เอวา มองเวอร์เนย์ ที่เคยควบคุมผลงาน ชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ ดีมาแล้วกับ เซลมา มาช่วยอำนวยการสร้าง ให้ด้วย แม้กระนั้นเหนือกว่า รายนามคณะทำงาน ที่น่าดึงดูดแล้ว ก็คือ หนังเล่าสนุกสนานมากมาย

เรื่องราวของเด็กชาญฉลาด ประเภทที่เรียกว่า 1 ใน 1,000 ซึ่งไม่ได้ต่างอะไร จากจังหวะกำเนิดของเสือขาว เขาเกิดขึ้นมา ในวรรณะต่ำ จากบริเวณต่างจังหวัด ขาดความเจริญรุ่งเรือง ถูกให้ออกจากสถานศึกษา ในขณะที่จะได้ทุน ไปศึกษาต่อ เพราะเหตุว่าฐานะทางบ้านยากไร้ มีเจ้าของที่ดิน มาเฟียรอขูดเลือดขูดเนื้อ ทุกรูปี ของคนภายในหมู่บ้าน

แล้วเงินน้อย ที่เหลือรอดมายังบ้านของ พลราม ก็ยังถูกจารีต เรื่องคุณย่ายิ่งใหญ่ รอขูดเลือดจาก สมาชิกในบ้านไปอีก เมื่อขาดเงิน คุณย่า ก็ขูดเลือดขูดเนื้อ จังหวะของพวกบุตรหลาน ในบ้านแทน ราวกับที่ พลราม อดเรียนจำเป็นต้องมาใช้แรงงาน รวมทั้งพี่ชาย ที่เมื่ออายุถึงก็ถูกบังคับสมรส เพื่อเอาของหมั้นจากบ้านสตรี

การพยายามไต่เต้า เอาชนะชะตากรรม ทุกวิธีการของ พลราม ( กระทั่งบางคราวความประพฤติเขาก็มองเทาๆ ) ก็เลยเป็นการต่อสู้ กับปัญหาของ สังคมประเทศอินเดีย ทั้งยังเรื่องวรรณะ ความเลื่อมใส จารีต รวมทั้งที่สำคัญที่สุด เป็นความเป็นทาส ที่ฝังลึกอยู่ในใจอุปนิสัย ของคนยากจน เหมือนกันกับที่ พลราม เปรียบเทียบว่าบ่อยที่แยบยล

อีกทั้งคำบอกเล่าที่ว่า อย่าเป็นคนยากจน ในระบอบประชาธิปไตย

อินเดียมีเพียงแค่ 2 วรรณะ เป็นคนยากจน กับคนร่ำรวย และก็ คนยากจน ประเทศอินเดียเป็นไก่ในกรง ที่ไม่คิดแหกกรงหนี และก็มีความเป็นทาส ที่ยินดีรับใช้นาย ในทุกจังหวะ

พลราม ราวกับระเบิดแสนซื่อ ที่ยังไม่มีดินปืน กระทั่งเขาถูกกระทำ ต่ำช้าจากผู้ที่เขาให้ดวงใจ ที่สุดทั้งยังนายจ้างหัวฝรั่ง ผู้เมตตา แล้วก็ครอบครัว ที่ผูกพันทางสายโลหิต โน่นทำให้เขากล่าวว่า ตัวเองหยั่งรู้ หรือรู้แจ้งเห็น กระจ่างแล้วว่า คนยากจน จะแปลงวรรณะเป็นคนมั่งคั่ง ได้ก็มีเพียงแค่ 2 ทาง ไม่อาชญากรรม ก็การบ้านการเมือง

ซึ่งพวกเรา จะได้เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ การเติมดินปืนใส่หัว พลราม ที่สุดด้านหลัง จะเปลี่ยนเป็น เจ้าพ่อสิลิกอนวัลเลย์ ที่ประเทศอินเดีย จากที่ตัวตนเขา ในอนาคตได้บอกผู้ชม มาตั้งแต่ต้นเรื่อง

เอาจริงเอาจังเป็นบรรยากาศ เรื่องราวรวมทั้งโพรดักชันต่างๆ เชื้อเชิญคิดถึง หนังออสการ์อย่าง สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ คำตอบสุดท้าย…อยู่ที่หัวใจ ของ ดินแดนนี่ บอยล์ อยู่ไม่น้อยเลย แล้วก็พอให้หายลงแดงได้มากทีเดียวด้วย แม้กระนั้นบรรยากาศที่ว่า ก็เหมือนสลัมด็อกฯ เพียงแค่ครึ่งเรื่องแรก โดยตัดความแฟนซีโรแมนติกออก เหลือแค่ขบขันร้าย แล้วก็การเสียดสีอย่างบ้าคลั่ง

ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น คัมมิงออฟเอจแบบเรียลๆ ในช่วงหลัง ที่พวกเราจะมองเห็น การเกิดของเสือขาว ที่อำมหิต พอเพียงจะต่อกรโลก ที่ไม่ดีได้ทัดเทียมกัน ซึ่งหากแม้ศิลปินดังๆ อย่าง ปริยังกา โจปรา โจนัส ที่ไปโผล่ในหนังฮอลลีวูด หลายเรื่องแล้ว จะเล่นในประเด็นนี้

แต่ว่าบอกเลยว่า ไม่มีผู้ใดแจ้งกำเนิดเกิน อาดาร์ช กอราฟ ผู้แสดงนำชาย หน้ามน ที่น่าจำทั้งยังลูกเซ่อซ่า และก็ลูกหัวหมอแม้กระนั้นก็เกลียดชังไม่ลง คิดไปถึงครั้ง เดฟ พาเทล ที่ทำสำเร็จโกอินเตอร์ มาก่อนหน้านี้ด้วยเลย

หนังบางทีอาจให้แง่คิด ผ่านผู้แสดงต่างๆ ได้อย่างน่าดึงดูดว่า พวกเราเป็นตัวละครไหน ในสังคมนี้อยู่ไหม และก็หนังก็บันดล ความหนำใจในผลสรุป ได้อยู่ไม่น้อยทีเดียว  เรื่องราวชวนหลอน