ซันแดนซ์ ฟิล์ม เฟสติวอล ได้คัดเลือกหนังไทยไปฉายในเทศกาล

ซันแดนซ์

ซันแดนซ์  ในปีแห่งไวรัสร้าย ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไปแม้แต่งานเทศกาลภาพยนตร์ที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งในอเมริกา

ซันแดนซ์  ปีที่ผ่านมาในเดือนมกราคม โดยงานนี้เป็นงานใหญ่ที่จัดได้เฉียดฉิวก่อนหายนะโควิด-19 จะลุกลามเข้าไปในอเมริกาในเดือนกว่าๆต่อมา ปีนี้ ซันแดนซ์ ฟิล์ม เฟสติวอล เปิดงานในเดือนมกราคมและจะมีไปถึงเดือนกุมภาพันธ์

และผู้จัดตัดสินใจแน่วแน่ว่าไม่เลื่อน ไม่เลิก แต่ปรับเป็นงานออนไลน์แทนทั้งหมด ผู้ชมสามารถเข้าไปซื้อตั๋วดูหนังได้โดยต้องมองออนไลน์พร้อมๆกัน และสามารถเข้าร่วมการพูดคุยกับผู้กำกับ นักแสดง ในห้องแชทหลังหนังฉาย

หรือร่วมการเสวนา งานทอล์คและอื่นๆโดยผ่านหน้าจอทั้งหมด คือไม่มีการฉายในโรงภาพยนตร์จริงๆเลย นี่ถือว่าเป็นการตกลงใจที่ห้าวหาญมาก เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า เทศกาลภาพยนตร์คือการเฉลิมฉลองภาพยนตร์ในรูปแบบ “ดั้งเดิม”

ซันแดนซ์

อีกทั้งเป็นตลาดหนังให้ผู้ซื้อผู้ขายมาพบเจอ ทำธุรกิจ แบบตัวต่อตัว – คือเป็นทั้งภาคศิลปะและภาคการค้า – การปรับไปจัดออนไลน์ทั้งหมดจึงเท่ากับยอมรับเงื่อนไขของโลกอันวุ่นวายที่บีบให้การดูหนังแบบออริจินัลต้องหลบหลังม่านไปก่อน

และยอมรับถึงข้อจำกัดอื่นๆเช่นการที่คนดูต้องแยกย้ายกันดูหนังผ่านจอคอม หรือจอทีวีแบบบ้านใครบ้านมัน ส่วนคนสร้างหนังก็ได้เพียงแค่ ซูม ทางไกลเข้ามาทักทายผู้ชมจากอีกโลเคชั่นหนึ่ง  (เงื่อนไขการดูหนังจำกัดเฉพาะผู้ชมในอเมริกาเท่านั้น

ยกเว้นหากเราขวนขวายมุด วีพีเอ็น กัน) ในทางกลับกัน การไม่ยอมเลิกหรือเลื่อน แปลว่า ซันแดนนซ์ ยังยืนหยัดในตารางชีวิตเดิมของตัวเอง และคงสถานะความสำคัญ ในการเป็นที่เปิดตัวหนังเป็นงานแรกของปี 2021  ข่าว หนังใหม่ MarVel

ทั้งนี้ เทศกาลหนังอื่นๆที่ปกติจัดในเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ ต่างขยับปรับช่วงเวลาทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น เทศกาลรอตเตอร์ดามก็เปลี่ยนเป็นแบบ ฮายบริด คือเป็นออนไลน์ในเดือนกุมภาพันธ์  และคาดว่าจะเป็นแบบฉายในโรงจริงๆในเดือนมิถุนายน (ถ้าทำได้)

ส่วนเทศกาลเบอร์ลิน อีกหนึ่งงานใหญ่ของโลกภาพยนตร์ ก็ปรับไปจัดในลักษณะคล้ายกัน ส่วนเทศกาลหนังเมืองคานส์ ประกาศแล้วว่าจะจัดในเดือนกรกฎาคม จากเดิมพฤษภาคม โดยหวังว่าถึงตอนนั้น โลกจะดีขึ้นและหนังจะกลับมาฉายในโรงได้เป็นปกติ (หวังครับหวัง ถ้าไม่หวังก็คงอยู่กันลำบาก)

กลับมาที่งาน ถึงงานจะลดสเกลลง วันก็น้อยลง แต่ปีนี้น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษสำหรับคนดูหนังไทย

เพราะมีหนังไทยถูกคัดเลือกไปร่วมฉาย หนังเรื่อง วัน ฟอร์ เดอะ โรด ของ บาส นัฐวฺฒิ พูนพิริยะ (แห่ง ฉลาดเกมส์โกง) เป็นหนังร่วมทุนไทย-จีน ที่มีหว่องกาไว เป็นโปรดิวเซอร์ และรวบรวมเอาศิลปินดังมากมาย

เช่น ธนภพ ลีรัตนขจร (ต่อ), ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ (ไอซ์ซึ), พลอย หอวัง, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, วิโอเลต วอเทียร์ และ ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง จัดกันมาเต็มๆทั้งงามอีกทั้งหล่อ ในเรื่องราวของสองเพื่อนฝูงเพศชายที่คนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง

อีกคนก็เลยกลับจากนิวยอร์คเพื่อพาเพื่อนฝูงเริ่มเดินทางขับขี่รถไปหลายจังหวัดในไทยเพื่อสะสางสิ่งค้างกับคนรักเก่า หนังยังมีฉากที่ถ่ายในนิวยอร์คอยู่หลายฉากด้วย วัน ฟอร์ เดอะ โรด เป็นภาพยนตร์ไทยเพียงไม่กี่เรื่องในรอบ 20 กว่าปี

ที่ได้รับเลือกให้ฉายที่งาน แต่อาจจะนับได้ว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ได้ฉายในสายประกวด (สาย เวิล์ด ดรามาติก ซินิม่า คอมเปติชั่น) ก่อนหน้านี้มีหนังไทยได้ในสายฉายโชว์ (คือไม่ประกวด) เรื่องแรกคือ ฟ้าทะลายโจร (เทียร์ ออฟ เดอะ แบล็ค ไทเกอร์)

ซันแดนซ์

ของวิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ได้รับเลือกไปฉายในปี 2000 และสร้างความตื่นเต้นไม่น้อยจากสไตล์ รีโทร แสนฉูดฉาดที่ฝรั่งทึ่งและงง

ต่อมา ลุงบุญมีระลึกชาติ ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ก็ได้ฉายโชว์ในปี 2011 หลังจากหนังโด่งดังจากการได้รางวัลปาล์มทองปีก่อนหน้า

จากนั้นมีเรื่อง ป๊อป- อาย หนังสิงคโปร์-ไทย (ถึงเรื่องราวและศิลปินจะเป็นไทย ผู้กำกับเป็นสิงคโปร์) เรื่องนี้ได้ฉายในสายประกวดในปี 2017

แต่หนังมีสถานะก้ำกึ่ง คือจะว่าเป็นหนังไทยก็ได้จะว่าเป็นหนังสิงคโปร์ก็ได้ เพราะประเทศสิงคโปร์ส่ง ป๊อป-อาย เป็นตัวแทนประเทศไปชิงออสการ์ในปีถัดมาหากเราพิจารณาหนังไทยสองเรื่องที่ไปเรื่องแรก ฟ้าทะลายโจร

ในปี 2000 และเรื่องล่าสุด วัน ฟอ เดอะ โรด ในปีนี้ จะเห็นได้ถึงความต่างในคอนเซ็ปท์และภาษาภาพยนตร์ ฟ้าทะลายโจร นั้น เป็นการหวนรำลึกถึงภาพยนตร์ไทยโบราณในรูปแบบโพสท์โมเดิร์น ส่วนอีกเรื่องนึงเป็นภาพยนตร์ไทยที่คล้ายกับ อเมริกัน อินดี้ ในลีลาและเรื่องราว

หนังสองเรื่องนี้แสดงให้เห็นการเดินทางของภาพยนตร์ไทยในรอบ 20 ปี ความผกผันของรสนิยมและการตลาด อีกทั้งการเติบโตและความทะเยอทะยานของคนทำหนัง ที่ต่างไปบรรจบพบกันอีกครั้งที่เทศกาลหน้าหนาว (แต่ชื่อร้อน)

ผู้เขียนเชื่อว่า วัน ฟอ เดอะ โรด หน่วยก้านดูเข้าทางและได้โอกาสไปได้ไกลหลังจากเปิดตัวที่นี่ (แค่เสียดายว่าปีนี้ไม่ได้ป็นเทศกาลแบบตัวเป็นๆ) เทศกาลนี้ เป็นเทศกาลหนังที่มีรสนิยมแบบอเมริกัน จัดมาตั้งแต่ปี 1994

ที่เมืองพาร์คซิตี้ รัฐยูท่าห์ มีหนังที่มาเปิดตัวและโด่งดังที่นี่ตลอดมา เช่น รีเซอร์เวอร์ ด๊อกส์ ของเควนติน ตารันติดโน่ เซ็ก, ลายส์ แอนด์ วีดีโอ เทป ของสตีเว่น โซเดอเบิร์ก สองเรื่องนี้เป็นคลาสสิคของหนังอเมริกันอินดี้ยุค 90

หลังๆมาก็มีหนังดังอย่าง ลิตเทิล มิส ซันชาย, เก็ท เอาว์ท, วิปแปลช และ คอล มี บาย ยัว เนม เท่าที่ทราบตอนนี้ วัน ฟอร์ เดอะ โรดยังไม่มีชื่อไทย ส่วนชื่ออังกฤษนั้นหมายถึง เหล้าแก้วสุดท้ายที่ดื่มทิ้งทวนก่อนกลับบ้าน รอฟังข่าวกันว่าหนังจะเข้าเมืองไทยเมื่อไหร่