หนังเปรียบเทียบ ถึงข้อดี ข้อด้อย แล้วก็ยังคงเป็นหนัง อีกเรื่องที่น่าสนใจ

หนังเปรียบเทียบ

หนังเปรียบเทียบ ชี้ให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้นวรรณะ ที่ยังคงพบเจอเป็นอันมาก

หนังเปรียบเทียบ ในปัจจุบัน ” เดอะ ไวท์ ไทเกอร์ ” พยัคฆ์ขาวรำพัน ภาพยนตร์อินดีย ที่ได้รับการดัดแปลงแก้ไข มาจากนิยายโด่งดัง ขายดิบขายดีของ อราร์วินด์ อดิกา ในชื่อเรื่องเดียวกัน  ข่าว หนังใหม่ MarVel

โดยหนังประเด็นนี้ ได้กระทำการกำกับ การแสดงแล้วก็ เขียนบทโดย รามินห์ บาห์รานิ ผู้ครอบครองผลงาน ฟาเรนไฮต์ 451 ที่เคยเข้าชิง รางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์ สาขาหนังโทรทัศน์เยี่ยมที่สุด แสดงนำโดย อดาร์ช กูราฟ , ปริยังกา โจปรา รวมทั้ง ราจคุมมาร์ พวกเราซี่งถูกเอามาดัดแปลง แก้ไขเป็นภาพยนตร์ในท้ายปี

หนังเปรียบเทียบ

โดยขายลิขสิทธิ์ ให้กับผู้อำนวยการผลิต มูกุล เดโอรา ซึ่งได้ถ่ายทำ อย่างมากมายทั่วเดลี และก็ได้เอามาฉายต่อ ที่ลาสเวกัส ถูกนำเข้าฉายโรงหนัง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถัดมาได้ลงนามกับทาง ซึ่งได้เผยแพร่ทั่วทั้งโลก โดยหนังจะเป็นการเสนอเรื่อง สายดาร์ก หรือการเผยแพร่ด้านมืด ของระบบชนชั้นวรรณะ ในประเทศประเทศอินเดีย

ที่เดี๋ยวนี้ ยังคงมีให้มองเห็น ถึงระบบการแบ่งชนชั้นวรรณะ ด้านสังคม ที่ซึ่งบางทีก็อาจจะกล่าวได้ว่า พวกเราไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้ โดยอินเดียนั้น จะแบ่งชนชั้นของคนมั่งมีคนยากจน ให้มองเห็นอย่างเห็นได้ชัด การใช้ชีวิตของคนมั่งมี คนมั่งคั่งการคลุมถุงชน ของคนร่ำรวยที่สมรสกับคนร่ำรวย การสู้ชีวิตของคนยากจน ที่จะต้องทำทั้งหมดทุกอย่าง เพื่อความมีชีวิตรอดในสังคม

โดยความยาวของหนังนั้น จะใช้เวลาอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 5 นาที ซึ่งจำต้องของบอกเลยว่า หนังประเด็นนี้ ได้พรีเซ็นท์การใช้ชีวิต ของแต่ละชนชั้น ในประเทศประเทศอินเดีย ได้อย่างดีเยี่ยม

เรื่องย่อของหนังเรื่อง เป็นการเล่าของ พลราม ( อาดาร์ชกอราฟ ) คขขับขี่รถสุดทะยาน อยากสถานที่ สำหรับทำงานเป็นพนักงานขับรถ ของสองผัวเมีย ชาวคนรวยของอินเดีย สิ่งเขานั้นมีสาเหตุมาจาก ชนชั้นต่ำจากบ้านนอก ปราศจากความรุ่งโรจน์ ซึ่งเขานั้นเป็นเด็กที่มีความฉลาด แล้วก็มีความรู้ และมีความเข้าใจ แต่ว่าเนื่องจากด้วยฐานะ ทางบ้านทำให้เขานั้น มิได้ศึกษาต่อ

แล้วก็ได้มาเป็น พนักงานขับรถของคนมั่งคั่ง โดยความบากบั่นไต่เต้า เอาชนะชะตาชีวิต ของเขาทุกวิธีทาง โดยทำงานของเขานั้นเขาให้ความซื่อตรง แล้วก็ภัคดีต่อเจ้านางของเขา จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ถูกความประพฤติ ที่ทำให้พวกเรา รู้สึกปวดอย่างยิ่งจากนายจ้างของเขา ด้วยความถูกข่มเหง แล้วก็การเหี้ยมโหดอำมหิต ที่ขาดความกรุณา ทำให้เขา เริ่มที่จะทำความเข้าใจว่า

มนุษย์ เราจะแปลงวรรณะ นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแค่สองอย่างแค่นั้นเป็น เป็นคนมั่งมี หรือไม่ก็เป็นอาชยากรรม ซึ่งโน่นก็ทำให้เขา เริ่มศึกษา รวมทั้งเรียนกระบวนการทำธุรกิจ ของนายจ้างของเขา และก็ด้วยความฉลาด ความกะล่อน มันสงผลพลักดัน ให้เขานั้นประสบผลสำเร็จ ได้เปลี่ยนมาเป็น เจ้าพ่อซิลิกอนวัลเลย์ ที่อินเดียได้เสร็จ

ผลสรุปความรู้สึก และก็สิ่งที่ได้ภายหลัง ได้รับดูหนังเรื่อง เป็นหนังที่สื่อออกมา

ให้เห็นได้ชัดถึง สภาพสังคมของอินเดีย ที่มีการแบ่ง วรรณะ ความศรัทธา จารีต หรือแม้กระทั้ง ความเป็นทาส ที่ยังคงมีให้มองเห็นอยู่ ในประเทศประเทศอินเดีย ซึ่งหนังประเด็นนี้ พรีเซ็นท์อกมาให้มองเห็น อย่างเห็นได้ชัดว่า อินเดียนั้นเปรียบ ได้ดั่งไก่ในกรง ที่ยังคงมีการใช้ ข้าทาสที่พวกเรา เคยได้เห็นในอดีต

หนังเปรียบเทียบ

ซึ่งหนังหัวข้อนี้ ให้ข้อคิดเตือนใจต่างๆ ออกมามาก ได้อย่างน่าดึงดูด มากมายอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งตอบจบของหนัง ก็สร้างความสาแก่ใจ ให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม โดยคุณลักษณะเด่น ของหนังประเด็นนี้ คงจะเป็นเพราะว่า หนังประเด็นนี้ถูกเอามาทำเป็นหนัง ได้จากการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไข จากหนังสือขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า

โดยเป็นการเล่าของยาจก ซึ่งสามารถปราบเมืองคนมั่งคั่ง ซึ่งจำเป็นต้องพูดว่า เนื่องจากเหตุผลนี้ ทำให้หนังหัวข้อนี้ ได้รับความพอใจจากผู้คนมากมายก่ายกอง

ซึ่งจะต้องบอกก่อนว่า ก่อนที่จะรับดูหนังประเด็นนี้ พวกเราจะต้องเอาความคิดเก่าๆ ที่เคยมีสำหรับหนัง ประเทศอินเดีย ที่มีความคิดว่า หนังหัวข้อนี้ ควรมีฉากเต้นรวมกัน หรือฉากตอนสุดท้าย ที่จะนำทุกผู้แสดงมาเต้น รวมกันหมด

ด้วยเหตุว่าหนังประเด็นนี้ ได้ผลิตขึ้นโดยได้บากบั่น สื่อให้มองเห็นถึง มุมด้านมืดของสังคมประเทศอินเดีย โดยในรายละเอียด อาจจะเป็นไปได้ว่า จะมีการจิกกัดความไม่เท่าเปรียบเทียบ ของสังคมประเทศอินเดีย ซึ่งในเรื่องจะเสนอ ในเรื่องของบท พลราม ที่วัยเด็กนั้น มีความรู้ความสามารถ สำหรับในการรู้หนังสือ แต่ว่าด้วยฐานะทางบ้าน ทำให้เขาคลาดโอกาส

ปัญหานี้ เป็นอีกปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และก็ยังคงคือปัญหาอยู่ใน ประเทศประเทศอินเดีย ซึ่งตัวหนังนั้น ก็มิได้จะวินิจฉัย ความประพฤติของพลราม อยู่แล้วว่าดีหรือเปล่าดี แม้กระนั้นหนังนั้น มุ่มเน้นย้ำที่จะบากบั่น สื่อออกไปให้มีความคิดเห็นว่า เรื่องแบบงี้ยังคงมีให้ประสบพบเห็น อย่างใหญ่โตในตอนนี้ และก็อีกหัวข้อ ที่ไม่กล่าวถึง คงจะมิได้คงจะเป็น การเสนอความรู้สึกการสื่อเรื่องราว

ออกมานั้นจัดว่า ทำเป็นอย่างดีเยี่ยม แต่ว่าข้อบกพร่อง ของประเด็นนี้ ก็มีให้มองเห็นมากมายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดบท จบในส่วนท้ายที่ดูเหมือนจะจบง่าย รวมทั้งกระชับมากมายไป  สามารถดึงผู้คน

การชี้แจงปัญหาความสลับซับซ้อน ของครอบครัวพลรามที่ไม่ชัดแจ้ง การเล่าเรื่องที่อยู่ครึ่งเรื่องจริง ทำให้หนังประเด็นนี้ นับว่าถ้าเทียบถึงจุดเด่น ข้อด้วยรวมทั้งยังคงเป็นหนังอีกประเด็นที่น่า ดึงดูดเป็นอีกหนึ่ง มหาศาลอย่างยิ่งจริงๆ