โนแมดแลนด์ ได้คว้ารางวัลภาพยนตร์ที่เดอะเบสท์แห่งปีนี้
โนแมดแลนด์ การแจกรางวัล อคาเดมี่ อวอร์ด หรือรางวัลออสการ์ มีขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ตามเวลาประเทศไทย
โนแมดแลนด์ ในรูปแบบใหม่อันเป็นด้วยผลพวงของเงื่อนไขที่ประวัติศาสตร์มนุษยชาติในปีแห่งโรคระบาด ทั้งการเดินพรมแดงที่ถึงจะยังมีอยู่ แต่ก็ไม่หวือหวาฮือฮาเหมือนทุกปี ส่วนงานแจกเองก็สั้น กระชับกว่าเดิม (นิดนึงก็ยังดี)
มีทั้งแขกที่มาในงานจริง ซึ่งมีจำนวนหลักร้อยกว่าคนเท่านั้น และที่ปรากฏตัวผ่านการถ่ายทอดมากจาก “ฮับ” หรือจุดถ่ายทอดในเมืองต่างๆของโลกที่ผู้เชิญรางวัล หรือผู้รับรางวัลอาศัยอยู่ (ไม่มี ซูม นะครับ เพราะไม่งาม)
ท้ายที่สุดแล้วบางเสียงบอกว่างานน่าเบื่อ แห้ง บางเสียงว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่เว่อร์วัง ไม่เอ้อระเหยและอวยตัวเองจนเกินงาม และไม่ลากยาวไปสาม-สี่ชั่วโมงอย่างที่มักจะเป็น สรุปผลรางวัล ออสการ์ 2021 ครั้งที่ 93 โนแมดแลนด์ คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ถึงแม้จะเป็นออสการ์ที่ประหลาดที่สุดในแง่การจัดการ แต่ว่าออสการ์ปีนี้กลับพลิกสร้างโอกาส พีอาร์ ตัวเองใหม่ในหลายมิติ ทั้งการตอบสนองเสียงเรียกร้องให้มีความหลากหลายของเชื้อชาติในหมู่ผู้เข้าชิง พูดง่ายๆว่าไม่ให้ออสการ์ “ขาว” เกินไป
อีกทั้งยังเน้นการ “สร้างประวัติศาสตร์” (ฮิสโตรี่-เมคกิ้ง) ในรายละเอียดต่างๆของผู้เข้าชิงและผู้ชนะ โคลเอ จาว เป็นผู้กำกับหญิงคนที่สองในประวัติศาสตร์ และผู้กำกับหญิงคนแรกที่ไม่ใช่คนผิวขาว ที่ชนะรางวัล เบส ไดเร็คเตอร์
การงานกำกับเรื่องนี้ (ผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้รางวัลนี้คือ แคทเธอรีน บิกเกโลว์ จาก เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์) ยูน ยอ จอง เป็นดาราเกาหลีคนแรกที่รางวัลออสการ์สาขาการแสดง ข่าว หนังใหม่ MarVel
โดยได้รับ เบส ซัพพอร์ตติ้ง แอคทรีส จากหนังดราม่า มินาริ แอนโธนี่ ฮอปกินส์ พลิกล๊อคได้รับรางวัล เบส แอคเตอร์ จากเรื่อง เดอะฟาเธอร์
และกลายเป็นผู้ชนะรางวัลสาขานักแสดงที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์คืออายุ 83 ปี ฮอปกินส์ เคยได้รางวัลออสการ์สาขาดารานำชายมาแล้ว
เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน จากเดอะ ไซเรน ออฟ เดอะ แลมป์ ฟรานเซส แมคดอร์มานด์ กลายเป็นดาราคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัล เบสท์ แอคทรีส สามครั้ง
(คนก่อนหน้านี้คือแคทเธอรีน เฮปเบิร์น) โดยครั้งนี้เธอได้จาก ภาพยนตร์ และก่อนหน้านี้ได้จาก ฟาร์โก้ และ ทรี บิลบอร์ดส์ เอาท์ไซด์ เอบบิง , มิสซูรี พีท ดอคเทอร์ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นคนแรกที่ได้รางวัล เบสท์ อนิเมเต็ด เฟียเจอร์ 3 ครั้ง
โดยปีนี้ได้จาก โซล และก่อนหน้านี้เคยได้จาก อินไซด์ เอาท์ และ อัพ ส่วนสตูดิโอ พิซาร์ ได้รางวัลนี้เป็นครั้งที่ 11
มีอา นีล และ เจมิกา วิลสัน เป็นคู่หญิงผิวดำสองคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล เบสท์ เมค อัพ แอนด์ แฮร์สไตล์ลิ่ง จาก มา ไรนี่ แบล็ค บอททอม เกลน โคลส ได้รับเสนอชื่อสาขา เบสท์ ซัพพอร์ตติ้ง แอคทรีสถึงจะไม่ได้รางวัล แต่เธอสร้างสถิติเป็นดาราที่ได้เข้าชิงมากครั้งที่สุด
และไม่เคยได้รับรางวัล คือรวม 8 ครั้ง จำนวนนี้เท่ากับดาราอังกฤษปีเตอร์ โอทูล เน็ตฟลิก เป็นสตูดิโอที่ได้รางวัลมากที่สุด 7 รางวัล
ทำให้สถานะสตูดิโอสตรีมมิ่งเจ้านี้ มีราศีทัดเทียมสตูดิโอยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูดขึ้นมาทันที เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ที่รางวัล เบสท์ พิกเจอร์ ไม่ได้ถูกประกาศเป็นรางวัลสุดท้าย แต่เป็นรางวัลที่ 3 ก่อนสุดท้าย ก่อนจะปิดด้วยสองรางวัลนักแสดงนำ
เรื่องนี้แม้แต่คนร่วมงานเองก็ไม่ทันตั้งตัว โนแมนแลนด์ เป็นหนัง เบสท์ พิกเจอร์ ที่มีรายได้บ๊อกซ์ออฟฟิศในอเมริกา
น้อยที่สุดในรอบหลายสิบปี คือถึงตอนนี้ทำเงินไปแค่ 5 ล้านดอลล่าร์ แน่ๆว่านี่ได้ผลจากโควิด-19 รวมทั้งการปิดโรงภาพยนต์ในอเมริกา ก่อนหน้านี้ หนังยอดเยี่ยมที่ได้เงินค่าตั๋วน้อยที่สุดคือ เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์ จากปี 2008 ทำเงินไป 11 ล้านดอลล่าร์ตอนได้รับรางวัล
และเพิ่มเป็น 17 ล้านดอลล่าร์หลังจากนั้น ส่วน พาราไซท์ หนังเกาหลีที่ได้รางวัล เบสท์์ พิกเจอร์ เมื่อปีที่แล้ว ทำเงินไป 53 ล้านดอลล่าร์ในอเมริกา ประเด็นท้ายสุดเรื่องรายได้ที่ว่าไป เป็นประเด็นที่น่ากังวลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
ถึงแม้โรงภาพยนต์ในอเมริกาเตรียมเริ่มเปิดกระทำอีกรอบหลังจากการฉีดวัคซีนทำเป็นอย่างเร็ว แต่รอยแผลจากโควิดยังคงไม่จางหาย โดยเฉพาะการเถลิงอำนาจของระบบสตรีมมิ่งและพฤติกรรมผู้ชมที่อาจจะเปลี่ยนไป ตลอดประวัติศาสตร์ 93 ปีที่ผ่านมา
รางวัลออสการ์เป็นการฉลองภาพยนตร์ที่ฉายในโรง และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมหนัง (แบบเดิม) ทั้งในอเมริกาและทั่วโลกให้คึกคัก แต่ในตอนนี้ แม้แต่ออสการ์เองก็ยังต้องตรวจสอบตัวเองและก้มหน้าก้มตาแสวงหาหนทางใหม่ในโลกภาพยนตร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง