สุดปัง รวมฉากซีจีไอตลอดไปของหนังจักรวาลมาร์เวล

สุดปัง

สุดปัง ภายหลังจากว๊อชเดอะแฟรตเคยเสนอ 13บาดแผลอันเจ็บปวด เมื่อซีจีไอ กลุ่มนี้

สุดปัง ภายหลังจาก ว๊อช เดอะ แฟรต เคยเสนอ 13 บาดแผลอันเจ็บปวด เมื่อซีจีไอ กลุ่มนี้ในหนังจักรวาลมาร์เวล…ไม่ปังปุริเย่! ไปแล้ว ประเดี๋ยวแฟนคลับเอ็มซียู

จะหาเรื่องเคืองว่า ฉากซีจีไอ หรือเอฟเฟกต์ดีๆ ก็มีไม่น้อย วันนี้ก็เลยขอนำเสนอ 6 ฉากซีจีไอ สุดปังของหนังจักรวาลมาร์เวลที่อยู่ในความจำ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนังฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวลแล้ว

ความอลังการของงานวิชวลเอฟเฟกต์หรือคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นไม่เป็นสองรองผู้ใดกัน จนกระทั่งช่วงนี้ อเวนเจอร์ : เอ็นเกมส์(2019) ก็ยังครอบครองสถิติหนังที่มีช็อตซีจีไอ สูงที่สุดในโลก

อยู่ประมาณ3,000 ช็อต (โดยเฉลี่ยหนังฟอร์มยักษ์สักเรื่องจะมีอยู่ 1,000-1,500 ช็อตก็หรูแล้ว) ถ้าหากย้อนกลับไปใน สไปร์เดอร์แมน ฉบับแรกของผู้กำกับ แซม ไรมิ ในปี 2002 ทูบาย

จำต้องใส่ชุดไอ้แมงมุมจริงแสดงตลอดการถ่ายทำ แบบที่ไม่มีฉากไหนที่ชุดถูกทำจากซีจีไอ เพียวๆเลย แต่ว่าพอเพียงมาถึงฉบับของ ทอม ฮอลแลนค์ นับจาก (2017) เป็นต้นมา

ชุดดูเหมือนจะทั้งหมดในหนังถูกผลิตจากซีจีไอ ถึงงั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความแนบเนียนแล้วก็เหมือนจริง เพราะเหตุว่าแฟนคลับก็ถูกใจทุกชุดสูทของเวอร์ชันนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุด ไอรอน สไปร์เดอร์แมนที่ ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ ได้จากคุณลุงที่รัก ดทนี่สตาร์ก ในภาค อินฟินนิตี้วาร์(2018) จำเป็นต้องมารอตามมองกันต่อว่าต่อขาน ในภาค 3 และภาคต่อๆไป

เงาเทคโนโลยีของไอรอนแมน จะยังปรากฏอยู่ในชุดสูทของสไปร์เดอร์แมน ในต้นแบบไหนอีกบ้าง หนังที่ยกระดับด้านงานภาพรวมทั้งวิชวลเอฟเฟกต์ของหนังจักรวาลมาร์เวลไปเลย

ก็คือ ด็อกเตอร์สตาร์ก(2016) ที่ถึงขั้นพาตัวหนังไปเข้าชิงสาขาวิชวลเอฟเฟกต์ดีเลิศบนเวทีออสการ์มาแล้ว ในขณะที่ตลอดทั้งเรื่องหนังมิได้มีช็อตซีจีไอ มากสักเท่าไรนัก ข่าว หนังใหม่ MarVel

แม้กระนั้นแม้ว่าจะมีน้อยก็เปี่ยมประสิทธิภาพ ฉากที่ตื่นตระหนกตกใจตาอาจหนีไม่พ้นฉากการต่อสู้ในมิติกระจกที่เอาเมืองทั่วเมืองมากลับเอียงตีลังกากันแทบตลอดเรื่อง มากกว่าในอินเซ็ปชั่น(2010)

ที่เมืองกลับไปๆมาๆเพียงแค่ไม่กี่ฉาก ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนพูดว่าหนังก็อปไอเดียจากหนังของโนแลนค์ มาแต่ว่าก็จะต้องสารภาพด็อกเตอร์สตาร์ก ก็นำฉากและก็วิชวลนี้

มาต่อยอดให้ตระการตาไปอีกได้อย่างน่าดึงดูด คณะทำงานสร้างวิชวลเอฟเฟกต์ก็ได้รับปัญหาจากมาร์เวล มาเช่นเดียวกันว่า ให้ใช้ซีจีไอ เพื่อเสริมความเหมือนจริงรวมทั้งเท่าที่มีความจำเป็นเพียงแค่นั้น

สุดปัง

ฉากซีจีไอ หรือเอฟเฟกต์ดีๆ ก็มีไม่น้อย วันนี้ก็เลยขอนำเสนอ 6ฉาก

สุดปัง ความสุภาพและก็ตั้งมั่นในความดีงามของสแทร์ โรเจอร์ ก่อนที่จะเข้าจะเปลี่ยนเป็นกัปตันอเมริกา รวมทั้งอาจคุณความดีด้านในจิตใจบ่อยมาจนกระทั่งห้อยโล่ไปในเอ็นเกมส์

มีส่วนเริ่มมาจากการที่เขาเคยเป็นผู้แพ้ทางร่างกายอย่างที่ไม่บางทีอาจแม้กระทั้งจะสมัครใจรบเพื่อรับใช้กองทัพในภาคกัปตันอเมริกา: เดอะเฟิร์ส อเวนเจอร์(2011)

ก่อนที่จะเขาจะได้รับเซรุ่ม ซูเปอร์ โซล์ไดร์ เพียงแค่เดียวจนกระทั่งทำให้ร่างกายล้ำบึก เขาเคยมีน้ำหนักเพียงแต่ 43 โลเพียงแค่นั้น รวมทั้งฉากซีจีไอ ที่สร้าง สแทร์ ร่างผอมบางลีบก็ทำออกมาได้เนียนจนกระทั่งขั้นมองน่าขนลุก

ผู้จะรับผิดชอบงานวิชวลเอฟเฟกต์ของหนังประเด็นนี้ จำต้องใช้ถึง 3 แนวทางสำหรับในการทำให้ คริส อีวาน ออกมามองผอมเกร็ง โน่นเป็นเคล็ดลับ ดี-เอจิ้ง ลดอายุบริเวณใบหน้า (ราว 10%)

เคล็ดวิธีใช้มุมกล้องถ่ายรูปถ่ายหลอกดังที่ผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน ใช้ถ่ายเหล่า ฮอบบิท น้อยใน เดอะลอท ออฟเดอะ ริงค์(2001-2003) เพื่อดูตัวเล็กมากยิ่งกว่าผู้แสดงบุคคลอื่น และก็แนวทางการแต่งหน้าทาปากเสริมเข้าไปอีก โดยกลุ่มวิชวลเอฟเฟกต์สร้างใบหน้ารวมทั้งรูปร่างของอีวาน

จากซีจีไอ เพียวๆเพียง 5% จากทั้งปวงเพียงแค่นั้น เหตุผลที่จำเป็นต้องทำกันถึงขั้นนี้ก็เนื่องจากว่ามาร์เวล ต้องการจะให้อีวาน ได้โชว์การแสดงจากตัวจริง ไม่ใช่ให้คอมพิวเตอร์เล่นแทน ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีเอฟเฟกต์ลดอายุของผู้แสดงที่เรียกว่าดี-เอจิ้งจะถูกปรับปรุงแล้วก็ประยุกต์ใช้

ในหนังหลายเรื่องมากขึ้นจนกระทั่งเวลานี้ แม้กระนั้นผู้กำกับผู้คนจำนวนมากก็ยังไม่ค่อยเชื่อถือในคำตอบที่พูดว่า มองลวงตา รวมทั้งทำให้เลือกกลับไปใช้แนวทางหาดาราผู้อื่นมาแสดงบทเดิมในวัยเด็กแทน แม้กระนั้นหนึ่งในแบบอย่างความเข้าทีของเทคโนโลยีนี้ ก็คือการลดอายุของบริเวณใบหน้า โทนี่ สตาร์ก

หรือดารา ลงไปเป็นช่วยวัยรุ่นตามเรื่องราวตอนย้อนความจำในสมัยก่อน หากว่าด้วยรายละเอียดบางครั้งอาจจะมองมีความขัดแย้งกับเส้นขณะเดียวกันนี้จากหนังเรื่องอื่นที่เคยเล่าไปแล้ว แต่ว่าก็อาจไม่มีผู้ใดโต้แย้งว่าการได้มองเห็นบริเวณใบหน้าอันอ่อนวัย ที่ราวกับหลุดมาจากหนังเมื่อ 30 ปี

กลายอย่างแอร์ อเมริกา (1990) คณะทำงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่ใช้เทคโนโลยีดี-เอจิ้งในหนังหัวข้อนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่แปลงหน้าของเบิร์ดพิท ตั้งแต่แก่จนกระทั่งเด็ก (2008) มาแล้ว ก็เลยไม่ประหลาดใจว่าถึงดำเนินงานออกมาได้เนียนขนาดนั้น (เนื่องจากทำมาแล้วทั้งยังเรื่อง เพียงแค่ฉากเดียวสบายมากมาย)

ภาคแยกของกัปตันอเมริกา: เดอะ วินเนอร์โซลไดร์(2014) ที่เป็นเอกเทศ มีหลักสำคัญของเรื่องเด่นเป็นของตนเอง (ซึ่งเป็นเรื่องการแทรกแซงทางด้านการเมืองรวมทั้งการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกที่แปลงเป็นความคลาสสิกไปโดยปริยาย) แตกต่างจาก (2016) ที่มองเจตนาจะให้วีรบุรุษมา

ปะทะกันมากยิ่งกว่า หนังภาค 2 เกิดเรื่องแรกที่ญาติ มากำกับหนังของเอ็มซียู รวมทั้งอยู่ยาวมาจนกระทั่งอเวนเจอร์ : เอ็นเกมส์(2019) พวกเขาตั้งมั่นทำหนังหัวข้อนี้ให้มีกลิ่นอายเป็นหนังจารชนสมัย 70เอส ถึงแบบงั้นหนังก็ยังเต็มไปด้วยฉากซีจีไอ อย่างยอดเยี่ยมถึง 2,500 ช็อต

บริษัทรับผิดชอบงานเอฟเฟกต์ข้างหลังราว 900 ช็อต ที่เหลือก็กระจัดกระจายไปตามบริษัทอื่นๆหนึ่งในเหตุผลของความยอดเยี่ยมเนื่องจากผู้กำกับประกาศชัดว่าซีจีไอ จะถูกประยุกต์ใช้เพื่อทำให้หนังสมจริงสมจังเยอะขึ้นเพียงแค่นั้น (มิได้ตั้งใจจะใช้ซีจีไอ สร้างทุกๆอย่างในฉากนั้นเดิมที)

เอฟเฟกต์ของหนังก็เลยมองสมจริงสมจังแล้วก็น่าไว้วางใจ หากว่าชุดของไอรอนแมน จะมีเยอะมากตามปริมาณภาคของหนังที่มากขึ้น (ทั้งยังในภาคแยกแล้วก็หนังรวมฮีโร่) รวมทั้งชุดพักหลังๆก็เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและก็ความพิเศษที่ช่วยเสริมการต่อสู้ของโทนี่สตาร์ก ยิ่งๆขึ้นไป

แม้กระนั้นชุดสูทซึ่งถูกตกแต่งด้วยซีจีไอ ในภาคข้างหลังๆแฟนหนังตาดีก็ชอบจับผิดว่า กลุ่มสร้างใช้ความละเอียดสำหรับเพื่อการทำลดลง ความแนบเนียนดูไม่ได้รับความเอาใจใส่อย่างแจ่มแจ้ง ชุดเกราะเล็กมองแบนรวมทั้งขาดมิติเยอะขึ้นในภาคถัดมา โน่นก็ทำให้แฟนคลับหวนคิดไปถึงชุดสูทของไอรอนแมน

ในภาคแรกสุดที่มองสมจริงสมจัง บางครั้งก็อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าคณะทำงานสร้างยังมีเวลาจุดโฟกัสในเนื้อหากระบวนการทำซีจีไอ อยู่ก็เป็นไปได้ หนังฮีโร่