เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ จากการดู แอดเวนเจอร์ เอนเกม

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ แฟนคลับมาร์เวลแล้วก็คนชอบดูหนังกับบางฉาก 

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ หนังฟอร์มยักษ์ทั้งผองจำเป็นต้องใช้คำว่า “แตกเตลิดเปิดเปิง” เลื่อนฉายกันไปแบบคนละทิศคนละทางทั้งยังผ่านเดือนแล้วก็ผ่านปี

ต่างจากปีที่ผ่านมาที่หนังเปิดซัมเมอร์ ปี 2019 เป็นหนังระดับปรากฎการณ์ที่อีก 10 ปี ก็บางทีก็อาจจะไม่มีหนังที่ทำรายได้เปิดตัวรวมทั้งมีผู้ชมเข้าไปดูในโรงมากมายเท่า

ขนาดทำให้แปลงเป็นหนังทำเงินสูงสุดชั่วนิจนิรันดร์ของทั่วทั้งโลกได้อย่าง แอดเวนเจอร์เอนเกม (นอกจาก อวาตาร์ 2 ที่จะเข้าฉายปีต่อไป 2021 เพียงแต่เรื่องเดียวเดี๋ยวนี้ที่ได้โอกาสคงจะทำเป็น)

วันนี้ What the Fact ขอนำเสนอ 10 เรื่องราวที่ “ขอท้าทาย” แฟนคลับมาร์เวลแล้วก็คนชอบดูหนังกับบางฉาก จะพลาดเนื้อหาหลายสิ่งหลายอย่างที่บางครั้งก็อาจจะพลาดไป

หรือจนกระทั่งยังไม่รู้มาก่อน (ที่กล่าวแบบงี้ เนื่องจากพวกเรามั่นใจว่าทุกคนคงจะได้มองประเด็นนี้กันไปแทบหมดแล้ว) ลองย้อนมองว่า ฉากไหนหรือเรื่องราวไหนที่ “พลาดไปได้อย่างไรเนี่ย?”

คุณไม่ทันมองเห็นแดรกซ์ใส่เสื้อเป็นครั้งแรก ในงานฌาปนกิจศพของโทนี สตาร์ค ฉากงานฌาปนกิจศพของโทนี สตาร์คใน แอดเวนเจอร์เอนเกม

ในฉาก Assemble(แอสเซมเบิล) หรือฉากรวมกลุ่มคราวสุดท้ายของเหล่า แอดเวนเจอร์ ที่ไม่น่ายินดีเอาเสียเลย เนื่องจากว่าเป็นในฉากงานฌาปนกิจศพของโทนี สตาร์ค

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนบางทีอาจจะพลาดไป ในฉากที่กล้องถ่ายรูปเบาๆแพนไหลไปเริ่มจากเพปเพอร์พอร์ต มองเห็นหน้าไปทุกคนจนกระทั่งจบที่นิค ฟิวปรี่ มันก็คือ แดร็กซ์

(ที่ก็เพียงพอจะเข้าหัวใจได้ว่า ชอบไม่มีผู้ใดมองเห็น เพราะเหตุว่าพี่เอ็งก็ได้เป็น “จอมล่องหน” ที่ถูกทุกคนละเลยอยู่ตลอด) ที่ในฉากนี้

ผู้ชมจะได้มองเห็นแดร็กซ์สวมเสื้อกับเขาเป็นครั้งแรก อาจเกิดขึ้นจากทุกคนสวมเสื้อสีดำเพื่อไว้อาลัย การจะให้พี่แดร็กซ์ยืนตัวเขียวอยู่โชว์จุกนมอยู่ก็จะไม่ค่อยนอบน้อมไปสักนิด

ถึงแม้ว่าเขาจะเคยพูดว่า “จุกนมเราเปราะบาง” และก็บางทีก็อาจจะจะต้องเสียดสีอยู่บ้างเมื่อจำต้องสวมเสื้อ

คุณจำไม่ได้ว่า เคยรับรู้ประโยค”ด้านซ้าย” ที่ฟัลคอนเคยบอกกับกัปตันอเมริกามาก่อนแล้ว ฉากการเจอกันทีแรกของทั้งสองใน กัปตันอเมริกา เดอะ วินเทอร์ โซลเยอร์

แซม วิลสันรวมทั้งสตีฟ โรเจอร์เจอกันทีแรกในฉากเปิดเรื่องของ กัปตันอเมริกา เดอะ วินเทอร์ โซลเยอร์ ก่อนที่จะความเชื่อมโยงของฟัลคอนและก็กัปตันอเมริกา

จะสืบต่อมิตรภาพนานมาอีกหลายภาคจนกระทั่งฟัลคอนได้รับโล่เพื่อเป็นกัปตันอเมริกาในสุดท้ายในตอนสุดท้ายของ แอดเวนเจอร์เอนเกม ในฉากเปิดเรื่องที่ว่านั้น

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ แซมที่กำลังวิ่งอยู่แถวสภานิติบัญญัติในวอชิงตันดีซีโดนกัปตันอเมริกาซึ่งก็ฝึกวิ่งอยู่เช่นกันแซงซ้าย กัปตันจะตะคอกกล่าวว่า “ระวังทางด้านซ้าย” ทุกรอบที่ถูกแซงไป (เนื่องจากจะขิงว่าวิ่งน็อครอบ)

ใน Endgame ฉากที่สร้างความซาบซึ้ง เนื่องจากว่าผู้ผลิตตั้งใจจะให้ผู้ชมได้ยินประโยคนี้กลับมาอีกรอบ ก็คือในฉากในที่สุดที่กัปตันอเมริกาใกล้จะเสียทีต่อธานอสเต็มคราว

เหล่าสหายๆ แอดเวนเจอร์ ที่ได้แปลงเป็นฝุ่นละอองในภาคก่อน ล้วนเทเลพอร์ตมาเสริมกำลังสู้รบด้วยพลังของด็อกเตอร์เสตรนจ์

แล้วก็ฟัลค่อนก็เป็นคนแรกที่ออกเสียงมาบอกเพื่อรักว่า “เราอยู่ทางด้านซ้าย (ของนายนะกัปตัน)”

คุณไม่ทันเฉลียวใจว่า เพราะเหตุไรธอร์ถึงมีความรู้สึกว่าร็อกเก็ต “เป็นกระต่ายหรือแร็คคูน?” ร็อกเก็ตและก็ธอร์ ตอนย้อนเวลากลับไปพบราชินีแม่ของธอร์

ในตอนแรกที่เทวดาสายฟ้าอย่างธอร์ได้พบกับร็อกเก็ตคราวแรกใน แอดเวนเจอร์ อินฟินิตี้วอร์ แล้วเขาก็เรียกร็อกเก็ตว่า “เจ้าต่าย” ที่บางทีอาจเป็นได้ว่าา

ธอร์ที่ไม่เคยมายังโลก บางครั้งก็อาจจะรู้เรื่องว่าสิ่งมีชีวิตบนโลก (หรือดาวดวงอื่นๆอีกทั้ง 9 มิติ) เรียกสิ่งมีชีวิตเค้าหน้าแบบร็อกเก็ตว่ากระต่าย

หรือกระต่ายบนดาวแอสการ์ดใบหน้าแบบแร็คคูนก็เป็นไปได้? พอเพียงทั้งสองได้กลับมาร่วมภารกิจกันอีกรอบในเอนเกม

กับการไปชิงเพชรนิลจินดาที่ความเป็นจริง(ภายหลังที่ก็ไปทำอาวุธสตรอมตรมเบรคเกอร์กันมาจนถึงซี้กันเพิ่มมากขึ้นอะนะ) ธ

อร์ก็ยังเรียกร็อกเก็ตว่าเจ้าต่ายอยู่ดีนั่นเอง เพราะฉะนั้นก็เลยเพียงพอจะทายใจได้ว่า ธอร์มิได้รู้ผิด แม้กระนั้นเขารู้เรื่องไปจริงๆว่าร็อกเก็ตเป็น กระต่าย!

คุณไม่รู้เรื่องสาเหตุของประโยค “ฉันคือไอรอนแมน” ในประเด็นนี้ ฉากที่การเสียสละคราวสุดท้ายของ ไอรอนแมน

นับว่าเป็นฉากสำคัญมากที่สุดฉากหนึ่งของเอนเกม แต่ว่ากับเบื้องหน้าเบื้องหลังสิ่งที่ทำให้เกิดฉากนี้ต่างหากที่หลายๆคนอาจจะไม่ทราบหรือพลาดไป

ประโยคสุดคลาสสิก “ฉันคือไอรอนแมน” ที่ผู้ชมมาร์เวลได้ยินทีแรกในตอนสุดท้ายของ ไอรอนแมน เพียงพอมาถึงเอนเกม ประโยคนี้ก็ได้ถูกใช้ต่อจากประโยคว่า

“เราเป็นชะตาที่ไม่บางทีอาจหลีกเลี่ยง” ของธานอส การที่โทนี่ สตาร์ค กล่าวก่อนทำการเอื้อเฟื้อครั้งสำคัญ

เป็นการตั้งใจของกลุ่มสร้างที่อยากที่จะให้คิดไปถึงประโยคในภาคแรก เพื่อจะพูดว่า 11 ปีของ ไอรอนแมน จะจบลงที่ตรงนี้

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ แต่เดิมฉากนี้มิได้มีอยู่ในบทมาแต่แรกเริ่ม ถัดมาในระหว่างที่อยู่ภายในห้องตัดต่อ ลูกพี่ลูกน้อง Russo ผู้กำกับก็คิดขึ้นมาว่า

โทนี่น่าจะกล่าวบางสิ่งบางอย่างเพื่อบอกลาแต่ว่าก็นึกไม่ออก จนถึง เจฟ ฟอร์ต กลุ่มตัดต่อมือเลิศที่อยู่กับหนังมาตลอดทั้งสี่ภาคของ แอดเวนเจอร ได้เสนอว่า

เมื่อธานอสบอกว่า “เราเป็นชะตาที่ไม่บางทีอาจหลีกเลี่ยง” เพราะอะไรไม่ทดลองย้อนกลับไปแล้วให้โทนี่กล่าวว่า “เราเป็นไอรอนแมน” บ้างล่ะ

ก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นประโยคสุดโก้แล้วก็ฉากที่น่าจำอย่างที่มองเห็นกัน

เรื่องที่เราขอท้าว่าคุณพลาดไปแน่ๆ

คุณก็งงมากว่า เพราะเหตุใดกัปตันอเมริกาก็เลยถือค้อนโยเนียร์แล้วก็สตอร์มเบรคเกอร์ของธอร์ได้ (ในภาคนี้) กัปตันอเมริกาถือทั้งยังค้อนโยเนียร์แล้วก็สระทมเบรคเกอร์ของธอร์ได้

ถ้าหากคนใดที่ติดตามเรื่องราวของจักรวาลมาร์เวลมาตลอดก็จะรู้ดีว่า กัปตันอเมริกาเคยบากบั่นชูค้อนโยเนียร์ของธอร์มาก่อนแม้กระนั้นก็ชูไม่เป็นผลสำเร็จ

กำเนิดเป็นปัญหาว่า เพราะว่ายังไม่ถึงเวลา? หรือเนื่องจากเขายังไม่คู่ควรพอเพียง? กับพลังของเทพเทวดาสายฟ้า

แต่ว่าในข้อสรุปภาค แอดเวนเจอร์ เอนเกม เขาก็สามารถจะถือแล้วก็ชูอาวุธทั้งคู่อย่างของธอร์ได้แล้ว มีคำชี้แจงในประเด็นนี้ไว้ว่าจาก คริสโตเฟอร์ มาร์คัส

มือเขียนบทของเรื่องว่า ใน ธอร์ แรคนาร็อก เรื่องจริงเกี่ยวกับค้อนโยเนียร์ก็ได้ถูกเผยไว้ว่า เมื่อเทวดาโอดิน พ่อของเทวดาธอร์ได้บอกกับลูกชาย

ถึงพรสวรรค์ที่มีอยู่ของค้อนธอร์นั้น พลังสายฟ้าของธอร์หาได้อยู่ที่ค้อนโยเนียร์ไม่ แต่ว่าเป็นพลังที่สถิตย์อยู่ในตัวของธอร์เองต่างหาก ซึ่งมือเขียนบทชี้แจงเพิ่มว่านั่นคือ

ธอร์ก็สามารถใช้พลังสายฟ้าได้เอง ไม่ว่าจะมีค้อนหรือเปล่ามีค้อนในมือก็ตาม รวมทั้งกัปตันก็จะสามารถใช้พลังสายฟ้าได้

ถ้าเขามีค้อนอยู่ในมือด้วยเหมือนกัน (ก็คืออีกทั้งธอร์แล้วก็อาวุธต่างก็มีพลังสายฟ้าทั้งสอง) รวมทั้งอย่างที่ธอร์กล่าวกับกลุ่มต่างดาวการ์เดี้ยนว่า

“คนที่จะชูอาวุธของเขาได้อย่างสะดวกสบาย จะเป็นผู้ใดก็ได้เป็นที่ยอมรับไหวกับร่างกายที่แหลกสลาย และก็หัวใจที่บางทีอาจพังทลายจากอำนาจของมัน”

ข่าวที่คุณอาจสนใจ: ยิ้มไม่หุบกับ วอลเลย์ เกิร์ล
อ่านข่าวฟุตบอลอื่นๆได้ที่: ข่าวหนัง MarVel